สนาม: Fengxun
บทนำ: วิษณุ ยันมีชัยสุจริตใจ ชงยื่นตีความกฎหมายลูก ย้ำไม่กระทบโรดแมป สมชัย สวนทันควันไปเรียนเลขใหม่ ลั่นหากทำจริงเลือกตั้งเลื่อนไป เมย62 แน่ ธนาธร ชวนสื่อร่วมปรับทัศนคติการเมืองก่อนไปจดตั้งพรรค คสชฮึ่มทำจริงผิดแน่ โอ๊ค มาแล้ว ตบกบาลรุ่นใหม่ปีนเกลียวเจ๊หน่อย เมื่อวันพุธ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ) จะทำความเห็นถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) ท้วงติงกรณีผ่านร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส) และร่าง พรบประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว) ที่กรรมาธิการร่วมฯ และ สนชมีมติผ่านร่างทั้งกฎหมายทั้ง 2 ฉบับแล้วว่า แม้นายมีชัยไม่มีสิทธิ์ยื่นตีความ แต่มีสิทธิ์ออกมาเตือน ถ้าประธาน สนชเห็นว่ามีเหตุผล สามารถถามสมาชิกและเข้าชื่อกันเพียง 25 คนยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ เชื่อว่านายมีชัยสุจริตใจ เพราะเตือนมาตลอด เมื่อสงสัยก็ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งศาลก็ไม่ได้ใช้เวลาพิจารณายืดยาว และหากศาลบอกว่ามีจุดไหนขัดรัฐธรรมนูญ ก็กลับมาให้ทำใหม่เฉพาะมาตรานั้น ไม่ได้ทำทั้งร่าง คิดว่าไม่กระทบต่อโรดแมปเลือกตั้ง ยังอยู่ในช่วงเวลาเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้แล้ว การเลือกตั้งยังคงอยู่ในช่วง กพ2562 แต่ถ้าทูลเกล้าฯ ถวายไปแล้วยื่นตีความภายหลังจะมีผลกระทบมากกว่าเหมือนกับที่นายมีชัยเป็นห่วง และเมื่อถึงจุดนั้น หากต้องร่างใหม่ ใครจะเป็นผู้ร่างก็ได้ นายวิษณุกล่าวนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อว่า หมากนี้ลึกซึ้งนัก โดยระบุว่า ขณะนี้เริ่มมีข่าวว่านายมีชัยจะมีหนังสือขอให้มีการยื่นตีความไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดยชี้แจงว่าจะไม่กระทบต่อโรดแมป ซึ่งใครบอกไม่กระทบให้ไปเรียนบวกเลขกันใหม่ กรณีที่ไม่มีการยื่นศาล ต้องใช้เวลาเต็มที่ 330 วัน หลังนายกฯ ทูลเกล้าฯ ถวาย คือรอโปรดเกล้าฯ 90 วัน ชะลอการใช้ 90 วัน เวลาเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ 150 วัน (90+90+150 = 330) หากนายกฯ ทูลเกล้าฯ ถวายในเดือน มีค2560 นับไป 11 เดือนก็คือ กพ62 แล้ว กรณียื่นศาลต้องทดเวลาเพิ่มอีก 2 เดือน คือเผื่อวินิจฉัยของศาลไว้เดือนครึ่ง และนำกลับมาแก้เล็กอีกครึ่งเดือน การนับเวลาใหม่จึงเป็น 60+90+90+150 = 390 วัน หรือ 13 เดือน แปลว่า วันเลือกตั้งจะเคลื่อนจากโรดแมปไปอีกสองเดือนจาก กพ เป็น เมย2562 ที่ตื่นเต้นกว่าคือ พรบประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา สว ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าผิดหรือขัดในสาระสำคัญ คงเห็นการยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งต้องยืดเวลาไปอีกออกอย่างน้อยหกเดือน ใครที่บอกว่า พรบประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา สวไม่เสร็จไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับการเลือกตั้ง สส ขอบอกสั้นๆ รัฐธรรมนูญบอกให้เลือก สวให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง สส15 วัน ไม่มี สวก็ไม่มี สสหมากนี้ลึกซึ้งยิ่ง ขึ้นอยู่กับใครจะเป็นจำเลยให้สังคม ระหว่าง 25 สนช หรือนายกฯ ถ้าโรดแมปต้องเลื่อนไปอีก 2-6 เดือน ส่วนนายมีชัยรอดครับ นายสมชัยกล่าวนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณี พลอประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช) แสดงความเห็นด้วยกับนายมีชัยในการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมายลูก 2 ฉบับว่า แน่นอนถ้าเสร็จไม่ทัน โรดแมปก็ต้องขยับ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศาลจะพิจารณาช้าหรือเร็ว และหากผลออกมาขัดรัฐธรรมนูญโรดแมปเลือกตั้งต้องว่ากันอีกยาว ซึ่งต้องหาคนรับผิดชอบที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะทำให้เวลาเลือกตั้งไม่เป็นไปตามโรดแมปวันเดียวกัน ยังมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของบรรดาพรรคการเมืองใหม่ เมื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหาร ไทยซัมมิท กรุ๊ป ซึ่งมีกระแสข่าวว่าจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ในวันที่ 15 มีค จะเดินทางไปยื่นเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองที่สำนักงาน กกต จึงขอเชิญพี่น้องสื่อมวลชนมาร่วมกินกาแฟกับธนาธร ในช่วงเช้าของวันที่ 15 มีค เพื่อปรับทัศนคติทางการเมือง ร่วมพูดคุยเปิดใจกับกลุ่มเพื่อนธนาธร หลังจากนั้น เวลา 1000 น จะเดินทางไปยื่นเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองที่ กกต ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะพอวินธัย สุวารี โฆษก คสช กล่าวในเรื่องนี้ว่า การดำเนินการดังกล่าวสุ่มเสี่ยงขัดคำสั่ง คสช เรื่องการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน โดยในวันที่ 15 มีคเจ้าหน้าที่คงใช้ดุลพินิจดำเนินการ หากเป็นเพียงการรวมตัวกันเพื่อนัดกันไปจดแจ้งพรรคการเมืองกับ กกตคงไม่มีปัญหา แต่ถ้าก่อนไปจดแจ้งมีการพูดคุยเรื่องการเมือง เจ้าหน้าที่ต้องพิจารณา หากเข้าข่ายต้องดำเนินการ ซึ่งหากเป็นไปตามที่นายธนาธรระบุในเฟซบุ๊ก ถือว่าสุ่มเสี่ยงจะทำผิด ทั้งนี้ ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบประเมินแหล่งข่าวจาก คสชประเมินว่า นายธนาธรเพียงอยากเรียกเรตติ้ง แต่พาสื่อไปเสี่ยงด้วย ซึ่งหากวันที่ 15 มีค พูดเรื่องการเมือง ก็เข้าเงื่อนไขผิดคำสั่ง คสช ซึ่ง พลอประยุทธ์ไม่ได้เน้นย้ำอะไร เหมือนท่านจะปล่อยๆ มากกว่า บอกให้เอาแค่หอมปากหอมคอ แต่อย่าเกินเลยนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต กล่าวว่า มีผู้ยื่นคำขอจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมือง 57 พรรค ส่วนขออนุญาต คสชเพื่อทำกิจกรรมเกี่ยวกับพรรคการเมือง ซึ่งสำนักงานได้ส่งเอกสารคำขอให้ คสชแล้ว 3 กลุ่ม โดยมี 1 กลุ่มที่ คสชอนุญาตไปแล้วทั้งนี้ กลุ่มการเมืองที่ได้รับอนุญาตจาก คสชให้จัดประชุมพรรคได้คือ พรรคทางเลือกใหม่ ที่มีนายราเชน ตระกูลเวียง เป็นผู้ยื่นขอจดจัดตั้งเมื่อวันที่ 2 มีค โดยจะจัดประชุมพรรคในวันที่ 24 มีคนี้ ขณะเดียวกันยังมีความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย (พท) โดยเฉพาะกรณีนายพชร นริพทะพันธุ์ สมาชิกกลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรค บุตรชายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมวพลังงาน ออกมาติติงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรค โดยนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อว่า คิดจะแจ้งเกิดแบบผิดๆ อาจกลายเป็นแจ้งดับได้ โดยระบุว่า น้องๆ นักศึกษา และพี่น้องประชาชน เริ่มจะตื่นตัวและเฝ้าจับตาพฤติกรรมการใช้อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ส่วนตนจนฝ่ายประชาธิปไตยทำท่าจะมีแต้มต่อเหนือเผด็จการฯ อยู่รอมร่อ แต่มนุษย์การเมืองแทนที่จะผนึกกำลังกัน เพื่อเป็นที่พึ่งที่หวังให้กับประชาชน และเป็นหลักให้คนรักประชาธิปไตย กลับมาหาเรื่องมาทะเลาะเบาะแว้งแก่งแย่งชิงดีกันได้อีก มีประเด็นอะไรพูดกันด้วยเหตุผลภายในพรรค จะผิดจะถูกตนไม่เคยว่า แต่เล่นใช้วิธีปั่นกระแสแบบนักเลงคีย์บอร์ดโบราณ เปิดเพจวันเสาร์ พอวันจันทร์ก็ให้เด็กโพสต์ ผู้ใหญ่กระจายข่าว ยัดข่าวให้สื่อนำบทความจากเฟซบุ๊กไปลงต่อ ทั้งแชร์ทั้งรีโพสต์รายชั่วโมง จนทีมมอนิเตอร์ต้องส่งข้อมูลมาให้ตนดู พร้อมทั้งถามว่า จะทำแบบนี้ให้พรรคพังไป เพื่ออะไรกัน?? ข้ออ้างที่บอกว่าทำไปเพื่อดึงกระแสคนรุ่นใหม่ที่กำลังจัดตั้งพรรคอยู่ ผมบอกเลยมวยคนละชั้น ฝ่ายโน้นเขามีจุดยืนเรื่องประชาธิปไตยมานาน ซึ่งถ้าพรรคการเมืองที่อยู่ข้างประชาชนคนรักประชาธิปไตยไม่เป็นพันธมิตรกัน มัวแต่งแก่งแย่งชิงคะแนน และคิดกันได้แค่นี้ ไม่มีทางที่จะชนะพรรคเผด็จการได้ พูดเลยคนการเมือง จะรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ ผมว่าอยู่ที่การกระทำมากกว่าอายุนะครับ นายพานทองแท้โพสต์ รทหญิงสุณิสา ทิวากรดำรง หรือหมวดเจี๊ยบ คณะทำงานพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กเช่นกันว่า แฟนคลับพรรคหลายท่านอาจไม่สบายใจเกี่ยวกับข่าวคราวของพรรค และตั้งคำถามว่าพรรคปิดกั้นคนรุ่นใหม่ไม่ให้แสดงออก ซึ่งในฐานะเป็นคนรุ่นใหม่คนหนึ่งขอยืนยันว่าไม่จริง พรรคให้ความสำคัญและผลักดันนักการเมืองรุ่นใหม่อย่างมาก ถือเป็นความใจกว้างของผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ก็เป็นผู้ใหญ่ใจกว้างคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ทางการเมืองอย่างยาวนานมาตั้งแต่สมัยก่อนก่อตั้งพรรคไทยรักไทยด้วยซ้ำ ท่านเป็นผู้หญิงทำงาน เป็นขาลุยคนหนึ่ง ในการเลือกตั้งครั้งหนึ่ง คุณหญิงตั้งครรภ์เดือนสุดท้าย ท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว แต่แข็งใจร่วมยืนปราศรัยกับทีมงานบนรถแห่หาเสียง จนถึงนาทีสุดท้ายแม้ว่าน้ำเดินแล้วก็ตาม ทำให้ไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่าทำไมจึงเป็นนักการเมืองเพียงคนเดียวที่ปักธงของพรรคตัวเองสำเร็จในพื้นที่ กทม และไม่ได้เกิดจากความฟลุก และไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากความทุ่มเทในการทำงานหนักอย่างแท้จริง รทหญิงสุณิสากล่าว...
ลิงค์ที่เป็นมิตรเวลาปัจจุบัน:2021-02-27